Go fx ดีไหม รีวิวข้อมูลโบรกเกอร์อย่างละเอียด

ในยุคที่การลงทุนออนไลน์กำลังเฟื่องฟู โบรกเกอร์ Forex เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย หนึ่งในชื่อที่เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการคือ GOFX แต่โบรกเกอร์รายนี้ดีจริงหรือไม่? วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันอย่างละเอียด

GOFX คืออะไร?

GOFX เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Forex, คริปโตเคอร์เรนซี, หุ้น, ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเซเชลส์

Go fx ดีไหม

ข้อดีของ GOFX

1. ความหลากหลายของสินทรัพย์: มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย ทั้ง Forex, คริปโตเคอร์เรนซี, หุ้น, ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์
2. ค่า Spread ทองคำต่ำ: เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเทรดทองคำ
3. ไม่มีค่า Swap: เป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ชอบถือครองตำแหน่งข้ามคืน
4. ไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน: ช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรม
5. มีประเภทบัญชีให้เลือกหลากหลาย: ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน
6. เลเวอเรจสูง: สูงสุดถึง 1:3000 สำหรับบางประเภทบัญชี
7. โบนัสและโปรโมชันเยอะ: มีโปรโมชันหลากหลายเพื่อดึงดูดนักลงทุน
8. ฝาก-ถอนเงินรวดเร็ว: โดยเฉพาะการถอนเงินที่อาจเร็วถึง 5 นาที
9. ยอดฝาก-ถอนขั้นต่ำน้อย: เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ
10. มีเว็บไซต์ภาษาไทยและทีมงานคนไทย: สะดวกสำหรับนักลงทุนชาวไทย
11. ใช้งานสะดวกทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์: รองรับการเทรดทุกที่ทุกเวลา
12. มีไลน์ให้ติดต่อ: ช่องทางการติดต่อที่สะดวกสำหรับคนไทย

ข้อเสียของ GOFX

1. ความน่าเชื่อถือต่ำ: ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือระดับต่ำ และเป็นโบรกเกอร์ที่เพิ่งก่อตั้งไม่นาน
2. ค่า Spread Forex และ Bitcoin สูง: อาจส่งผลต่อผลกำไรของนักลงทุน
3. มีแพลตฟอร์มการเทรดน้อย: มีเพียง MT4 และ MT5 ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์นักลงทุนบางกลุ่ม
4. เรทฝาก-ถอนไม่ดี: แม้จะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่มีการสูญเสียเงินประมาณ 0.5851% ในกระบวนการฝาก-ถอน
5. ไม่มีเบอร์โทรในประเทศไทยให้ติดต่อ: อาจไม่สะดวกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการติดต่อทางโทรศัพท์
6. คะแนนรีวิวจากผู้ใช้ค่อนข้างต่ำ: ได้รับเพียง 2.6 ดาวจาก 5 ดาวบน Trustpilot
7. การเข้าชมเว็บไซต์น้อย: อาจสะท้อนถึงความนิยมที่ยังไม่สูงมากนัก

ความน่าเชื่อถือของ GOFX

ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ มาดูกันว่า GOFX มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด:

1. ใบอนุญาตและการกำกับดูแล: GOFX ได้รับการกำกับดูแลโดย Financial Services Authority (FSA) ของประเทศเซเชลส์ ภายใต้เลขที่ใบอนุญาต SD118 อย่างไรก็ตาม FSA เซเชลส์ถือเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ 3 ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำอย่าง FCA ของอังกฤษหรือ ASIC ของออสเตรเลีย
2. อายุของบริษัท: GOFX เพิ่งก่อตั้งในปี 2020 ซึ่งถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ค่อนข้างใหม่ในอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 10-20 ปี
3. รีวิวจากผู้ใช้: บน Trustpilot ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรีวิวที่น่าเชื่อถือ GOFX ได้รับคะแนน 2.6 ดาวจาก 5 ดาว จากผู้รีวิว 6 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2024) ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างต่ำ
4. การเข้าชมเว็บไซต์: GOFX มีการเข้าชมเว็บไซต์เฉลี่ยเพียง 2,700 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำที่มียอดเข้าชมหลายล้านครั้งต่อเดือน

จากข้อมูลข้างต้น สรุปได้ว่า GOFX มีความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ ซึ่งเป็นจุดที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใช้บริการ

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้กับ GOFX

GOFX ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท ได้แก่:

1. Forex
2. คริปโตเคอร์เรนซี
3. หุ้น
4. ดัชนี
5. สินค้าโภคภัณฑ์

ความหลากหลายของสินทรัพย์ถือเป็นจุดแข็งของ GOFX ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและเลือกลงทุนได้ตามความถนัดและความสนใจ

ค่าธรรมเนียมและสเปรด

ค่าธรรมเนียมและสเปรดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลกำไรของนักลงทุน มาดูกันว่า GOFX มีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง:

1. ค่าสเปรด Forex: GOFX มีค่าสเปรดเฉลี่ยสำหรับ 7 คู่เงินหลักอยู่ที่ 18.00 จุดต่อ 1 ล็อต โดยคู่เงิน EURUSD มีสเปรดเฉลี่ยที่ 11.0 จุดต่อ 1 ล็อต ซึ่งถือว่าสูงกว่าโบรกเกอร์ชั้นนำหลายราย
2. ค่าสเปรดทองคำ: สำหรับทองคำ (XAUUSD) GOFX มีค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 20 USD ต่อ 1 ล็อต ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
3. ค่าสเปรด Bitcoin: สำหรับ Bitcoin (BTCUSD) GOFX มีค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 44.75 USD ต่อ 1 Bitcoin หรือคิดเป็น 0.06729% ของราคา Bitcoin ซึ่งถือว่าสูงกว่าโบรกเกอร์ชั้นนำหลายราย
4. ค่าคอมมิชชัน: GOFX มีค่าคอมมิชชันเฉพาะสำหรับบัญชีประเภท GO-PRO เริ่มต้นที่ $3.5 ต่อการเทรด 1 ล็อต
5. ค่า Swap: GOFX ไม่มีค่า Swap (ฟรี Swap) สำหรับทุกประเภทบัญชีและทุกสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำหรับนักลงทุนที่ชอบถือครองตำแหน่งข้ามคืน
6. ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน: GOFX ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักลงทุน

โดยรวมแล้ว GOFX มีค่าธรรมเนียมและสเปรดที่ค่อนข้างสูงสำหรับ Forex และ Bitcoin แต่มีจุดเด่นในเรื่องของค่า Swap ที่ไม่มีและไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน

ประเภทบัญชีของ GOFX

GOFX มีบัญชีให้เลือก 5 ประเภท ดังนี้:

1. GO-MINI: เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่มีเงินทุนน้อย ใช้สกุลเงิน Cent ในการซื้อขาย
2. GO-STANDARD: ไม่มีค่าคอมมิชชัน แต่มีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1 pip
3. GO-LOW SPREAD: ไม่มีค่าคอมมิชชัน และมีค่าสเปรดต่ำเริ่มต้นที่ 0.6 pips
4. GO-PRO: มีค่าสเปรดต่ำที่สุดเริ่มต้นที่ 0.2 pips แต่มีค่าคอมมิชชัน
5. GO-INTER: สำหรับเทรดหุ้นต่างประเทศและดัชนีเท่านั้น

ความหลากหลายของประเภทบัญชีช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกบัญชีที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดและเงินทุนของตนเองได้

แพลตฟอร์มการเทรด

GOFX รองรับแพลตฟอร์มการเทรด 2 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่:

1. MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ Forex
2. MetaTrader 5 (MT5): รุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติมและรองรับสินทรัพย์ที่หลากหลายขึ้น

ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ ทำให้นักลงทุนสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา

เลเวอเรจ (Leverage)

GOFX มีเลเวอเรจสูงสุดที่แตกต่างกันในแต่ละประเภทบัญชี:

• GO-MINI: สูงสุด 1:500
• GO-STANDARD: สูงสุด 1:3000
• GO-LOW SPREAD: สูงสุด 1:500
• GO-PRO: สูงสุด 1:100
• GO-INTER: สูงสุด 1:100

เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:3000 ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งอาจเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่ชอบความเสี่ยงสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย

โบนัสและโปรโมชัน

GOFX มีโบนัสและโปรโมชันหลายรายการ เช่น:

1. โบนัส GO Yuzawa Otsumami รับฟรี Voucher ร้านอาหารญี่ปุ่นมูลค่า 1,000 บาท
2. โบนัสเงินฝาก 30% ในทุกสัปดาห์แรกของเดือน สูงสุดถึง $100
3. โปรแกรม Loyalty Bonus เทรดสะสมคะแนนเพื่อรับของรางวัล

โบนัสและโปรโมชันเหล่านี้อาจดึงดูดนักลงทุนบางกลุ่ม แต่ควรพิจารณาเงื่อนไขอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจใช้บริการ

การฝาก-ถอนเงิน

GOFX มีช่องทางการฝาก-ถอนเงินหลายช่องทาง ได้แก่:

• QR Code (รองรับทุกธนาคารในประเทศไทย)
• USDT
• Bitcoin
• Skrill

• ธนาคาร (รองรับทุกธนาคารในประเทศไทย)

GOFX มีจุดเด่นในเรื่องของการฝาก-ถอนเงิน ดังนี้:

1. ความรวดเร็ว: การฝากเงินมักจะเข้าบัญชีทันทีหลังจากชำระเงิน ส่วนการถอนเงินโดยปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่จากประสบการณ์ของผู้ใช้บางราย การถอนเงินอาจเร็วถึง 5 นาที
2. ยอดขั้นต่ำ: GOFX มียอดฝากขั้นต่ำเพียง 1 USD (ประมาณ 36 บาท) และยอดถอนขั้นต่ำ 5 USD (ประมาณ 180 บาท) ซึ่งถือว่าต่ำมาก เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ
3. ไม่มีค่าธรรมเนียม: GOFX ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน

อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบฝาก-ถอนเงิน พบว่ามีการสูญเสียเงินประมาณ 0.5851% ซึ่งอาจเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ

ความเหมาะสมสำหรับคนไทย

GOFX มีจุดเด่นหลายประการที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนชาวไทย:

1. ภาษาไทย: เว็บไซต์มีเวอร์ชันภาษาไทย ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น
2. ทีมงานคนไทย: มีทีมงานคนไทยคอยให้บริการ ช่วยลดปัญหาด้านการสื่อสาร
3. ช่องทางการติดต่อ: มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย รวมถึงไลน์ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันยอดนิยมในประเทศไทย
4. การฝาก-ถอนเงิน: รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยทุกธนาคาร และมี QR Code สำหรับการฝากเงิน

ความสะดวกในการใช้งาน

GOFX ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ โดยสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น:

• การสมัครเปิดบัญชี
• การฝากเงิน
• การเทรด
• การถอนเงิน

ความสะดวกนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดการบัญชีและทำการเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา

สรุป: GOFX ดีไหม?

GOFX เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การตัดสินใจว่า “ดี” หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการลงทุนของแต่ละบุคคล

สำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของสินทรัพย์ ไม่มีค่า Swap ฝาก-ถอนเงินรวดเร็ว และต้องการเลเวอเรจสูง GOFX อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานและการสื่อสาร

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ ต้องการค่า Spread ที่ต่ำสำหรับ Forex และ Bitcoin หรือต้องการแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย GOFX อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด